การจัดตู้ปลาทะเล ผู้เลี้ยงต้องคำนึงถึงนิเวศวิทยาของปลาที่จะนำมาเลี้ยงเป็นหลัก
เนื่องจากปลาแต่ละชนิดมีความต้องการด้านต่างๆไม่เหมือนกัน เช่นปลาบางชนิดมีรูปร่างใหญ่
หรือครีบยาว ควรอยู่ในตู้จัดให้โล่งกว้างไม่มีหินประดับมากจนเกินไป ปลาบางชนิดต้องการ
ความสงบในการดำรงชีวิต ดังนั้นไม่ควรเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่น หรือปลาบางชนิดมีชอบ
อาศัยอยู่ตามซอกหิน การจัดตู้ควรจะมีซอกเพื่อให้ปลาอยู่อาศัยเป็นต้น
การเลือกวัสดุที่นำมาจัดตกแต่งก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน ควรเลือกให้มีความ
เหมาะสมปราศจากโลหะเป็นองค์ประกอบ เนื่องจากน้ำทะเลทำปฏิกิริยาง่ายกับโลหะชนิด
ต่างๆ ส่วนอุปกรณ์จัดตู้ปลาชนิดต่างๆที่เป็นพลาสติกและเป็นที่นิยมใช้กับการเลี้ยงปลา
สวยงามน้ำจืด สามารถนำมาตกแต่งในการเลี้ยงปลา
ทะเลได้เช่นกัน แต่วัสดุดังกล่าวไม่ได้รับความนิยม
จากผู้เลี้ยงเท่าที่ควร เนื่องจากตู้ปลาทะเลมักเน้นการ
จัดตู้แบบคล้ายธรรมชาติ สอดคล้องกับระบบนิเวศน์
เดิมของปลาทะเล ดังนั้นวัสดุหรือหินตกแต่งส่วน
มากจึงนิยมนำมาจากทะเล
พื้นตู้ ทรายและกรวดปะการังเป็นวัสดุที่นิยมสำหรับการจัดพื้นตู้มากที่สุด โดยทรายที่ใช้ต้อง
เป็นทรายที่นำจากชายหาด ลักษณะสีค่อนข้างขาว เป็นทรายที่เกิดจากการหักของปะการัง
และเปลือกหอย ไม่นิยมใช้ทรายที่มาจากแหล่งน้ำจืดหรือแม่น้ำ เพราะส่วนมากมีสีน้ำตาล
ทำให้การจัดตู้ดูไม่เป็นธรรมชาติ บ่อยครั้งพบว่าทรายจากแม่น้ำหากถูกน้ำทะเลกัดกร่อยและ
อาจปล่อยสารเคมีบางชนิดออกมาส่งผลต่อการเกิดตะไคร่น้ำสีน้ำตาลขึ้น ส่วนกรวดปะการัง
เป็นกรวดที่นิยมใช้เช่นกัน มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ละเอียดขนาดไม่ถึง 0.5 เซนติเมตร
จนกระทั้งมีขนาดใหญ่ถึง 10 เซนติเมตร กรวด
ปะการังเหล่านี้ใช้เป็นวัสดุรองพื้นเพื่อความสวยงาม
และกักเก็บฝุ่นตะกอนให้น้ำทะเลที่เลี้ยงปลาใส
อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่
ช่วยบำบัดคุณภาพน้ำและเป็นที่อยู่ของสัตว์ที่ย่อย
อินทรีย์สารเช่นพวก หนอนทะเลและไอโซพอด
อีกด้วย
การเลือกใช้ทรายหรือกรวดปะการังควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปลาทะเลที่นำมา
เลี้ยงเช่น หากเลี้ยงปลาในกลุ่มปลานกขุนทอง จำเป็นต้องมีทรายที่ละเอียดรองพื้นตู้ ปลานก
ขุนทองจะอาศัยอยู่ใต้ทรายเวลานอนหลับ ส่วนปลาบู่แก้มฟ้าจะกินอาหารโดยวิธีอมทรายแล้ว
คายออกทางช่องเหงือก ดังนั้นหากไม่จัดพื้นตู้ไม่เหมาะสมแล้วจะทำให้ปลาที่เลี้ยงอาจมีชีวิต
ไม่ยาวนาน
หินเป็น มาจากภาษาอังกฤษว่า Live rock ซึ่งเป็นวัสดุที่นำมาจากทะเล แต่ความจริงแล้ว
หินเป็นส่วนมากไม่ใช่หินที่อยู่ในทะเล แต่กลับเป็นซากก้อนปะการังที่ตายทับถมกันเป็นเวลา
นาน มีรูปร่างที่เป็นอิสระตามธรรมชาติ รูปทรงหลากหลาย นิยมใช้จัดตู้ปลาทะเลเพราะการ
จัดด้วยหินเป็นจะทำให้ตู้ปลาทะเลดูเหมือนสภาพแวดล้อมใต้ท้องทะเล มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่
อาศยั อย่บู นหนิ เปน็ เชน่ สาหรา่ ยชนดิ
ต่างๆ สาหร่ายหินปูน ปะการังขนาด
เล็ก ดอกไม้ทะเล สัตว์จำพวกก้งุ และ
ปูขนาดเล็ก เพรียงหัวหอม ฯลฯ
หิน เ ป็น จึง เ ป็น แ ห ล่ง
อาหารธรรมชาติของปลาหลายชนิด
เช่น ปลาสินสมุทร ปลาผีเสื้อ ปลาขี้
ตังเป็ด ฯลฯ คอยจิกกินในระยะเริ่ม
ต้นของการเลี้ยงปลาเหล่านี้
ส่วนประโยชน์หลักของหินเป็นคือการใช้สำหรับการควบคุมและบำบัดคุณภาพน้ำ
หินเป็นที่เป็นซากปะการังจะมีรูพรุน
จำนวนมาก และทับถมอยู่ใต้ท้องทะเล
เป็นเวลานาน มีจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติ
บำบัดคุณภาพน้ำตามกระบวนการ
Nitrification และ Denitrification
ตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่การใช้หินเป็น
ควรมีการบำบัดหินเป็นก่อนที่จะนำมาใช้
ไม่ควรนำหินเป็นที่มาจากทะเลใหม่ๆใช้
กับตู้ที่มีปลาสวยงามอยู่ เพราะสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่ติดมากับหินเป็นไม่สามารถอาศัยอยู่ภายใน
ตู้ปลาทะเลได้ด้วยเงื่อนไขด้านอาหารและสิ่งแวดล้อมจึงทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นตายลง
ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำได้ ดังนั้นการนำหินเป็นขึ้นมาจากทะเลจึงควรต้องมีการบำบัดของ
เสียให้เป็นที่เรียบร้อยก่อนจึงนำมาใช้ตกแต่งตู้ปลาทะเล
หินเป็นเทียม คือวัสดุที่ออกแบบให้คล้ายกับหินเป็นทั้งรูปทรงและประโยชน์ในด้านการ
บำบัดคุณภาพน้ำ หินเป็นเทียมสามารถทำได้จากวัสดุหลายชนิด ที่นิยมกันใช้กันมากที่สุดคือ
ทำหินเป็นเทียมจากซีเมนต์ โดยที่การผลิตหินเป็นเทียมนั้นไม่ยุ่งยาก แต่กว่าจะสำเร็จ
เป็นก้อนหินเป็นเทียมที่สวยงามนั้นต้องใช้เวลานานถึง 2-3 เดือนเลยทีเดียว
วัสดุหลักในการทำหินเป็นเทียมคือปูนซีเมนต์ แต่หากเป็นไปได้ควรใช้ปูนซีเมนต์
ชนิดที่ทนการกัดกร่อนจากน้ำทะเล จากนั้นผสมกับทราย และเปลือกหอยบดหยาบ
ในอัตราส่วนโดยปริมาตร 1:2:2 ตามลำดับ ผสมให้เข้ากัน มีลักษณะคล้ายกับปูนซีเมนต์ผสม
ทั่วไป จากนั้นนำปูนที่ผสมเรียบร้อยแล้ว หล่อขึ้นรูปให้ได้รูปที่อิสระมากที่สุด โดยการเทลง
บนกระบะทราย หรือแผ่นพลาสติกที่วางบนก้อนดิน จะทำให้ได้หินเป็นที่มีรูปทรงสวยเป็น
ธรรมชาติ ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน ปูนจะเริ่มแข็งตัวปล่อย จากนั้นนำหินเป็นเทียมที่ได้แช่น้ำให้
ท่วมเพื่อลดความด่างของปูน เปลี่ยนน้ำบ้าง หากบ่อยครั้งได้ยิ่งดี หรืออาจใช้วิธีภูมิปัญญา
ท้องถิ่นคือใส่หยวกกล้วย หรือมะขามเปียกช่วยลดความเป็นด่างได้อีกทางหนึ่ง
นำหินเป็นเทียมที่หมดความเป็นด่างเรียบร้อยแล้ว เลี้ยงในตู้หรือบ่อที่สภาพน้ำ
สมบูรณ์ดี เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่บำบัดคุณภาพน้ำเข้าอยู่อาศัยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
และสามารถนำปลูกสาหร่ายหรือปล่อยให้ตะไคร่น้ำขึ้นคล้ายหินเป็นที่นำขึ้นมาจากธรรมชาติ