จากการที่การเลี้ยงปลาสวยงามมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีการปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆให้ทันสมัยดูสวยงามมากขึ้น ทำให้มีผู้สนใจเลี้ยงปลาสวยงามกันมากขึ้น ซึ่งมีทั้งที่เลี้ยงเป็นงานอดิเรกเพื่อความเพลิดเพลิน เลี้ยงเป็นอาชีพเสริมและเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก ถึงแม้การเลี้ยงปลาสวยงามจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีผู้เลี้ยงหลายรายที่ประสบปัญหาปลาเกิดโรค และปลาตาย ทำให้ถึงกับเลิกเลี้ยงไปบ้างก็มี ทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้อง ผู้เลี้ยงควรจะต้องทราบหรือเข้าใจเพื่อป้องกันความผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น หรือผู้ที่ต้องการเลี้ยงปลาสวยงามเป็นอาชีพ ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจ ศึกษาหาความรู้ และประสบการณ์ในการเลี้ยงปลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีความสนใจ และหมั่นสังเกตุลักษณะอาการของปลาอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ประสบผลสำเร็จได้
สิ่งสำคัญที่ควรจะได้ทำความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง คือ ความเป็นอยู่ของปลาและลักษณะของการเลี้ยงปลาสวยงาม ที่กระทำกันอยู่โดยทั่วไป ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า การเลี้ยงปลาสวยงามเป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่แคบๆ ในสภาพขาดการเปลี่ยนแปลงน้ำ คุณภาพน้ำจะถูกควบคุมโดยขนาดและจำนวนสัตว์น้ำ กับปริมาณการให้อาหาร กล่าวคือการเลี้ยงปลาสวยงามโดยทั่วไป เมื่อผู้เลี้ยงซื้อตู้ปลาและปลามาจัดเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีแต่การให้อาหารปลาเท่านั้น มักจะไม่มีการถ่ายเทน้ำหรือเปลี่ยนน้ำในตู้เลี้ยงปลา แต่ที่เห็นว่าปลามีลักษณะอาการสดชื่นเป็นปกติ และเห็นน้ำใสสะอาด เนื่องจากมีระบบการเพิ่มอากาศ(ออกซิเจน)และมีการกรองน้ำด้วยระบบต่างๆ ซึ่งผู้เลี้ยงได้รับการแนะนำมาจากผู้ขายจากร้านขายปลาสวยงามนั่นเอง จากสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวถึงแม้จะดูเหมือนว่าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับปลาที่เลี้ยง แต่ถ้าผู้เลี้ยงปล่อยปละละเลยไม่ทำความสะอาดระบบกรองเลย จะพบว่าปลาที่เลี้ยงมีการเจริญเติบโตน้อยมาก คือขนาดตัวยังเท่าเดิม สีสันไม่สดใสแต่กลับจะซีดลง จนถึงระยะหนึ่งปลาจะมีอาการผิดปกติ เกิดการติดเชื้อ แล้วปลาส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดจะตายไป
ดังนั้นหากผู้เลี้ยงได้พยายามศึกษาทำความเข้าใจเรื่องความต้องการของปลา และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ก็จะทำให้ปลาสวยงามที่เลี้ยงมีความสมบูรณ์ สวยงาม หรือประสบผลสำเร็จในกิจการเลี้ยงปลาสวยงามได้